คำชะโนด ตำนานความเชื่อพญานาค คำชะโนด เรื่องราวความเชื่อของพญานาคตำนานป่าคำชะโนดเชื่อกันว่าเป้นประตูสู่เมื่องบาดานซึ่งเป็นที่อยู่ของพญานาคคำชะโนดนั้นมีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำมีเรื่องราวที่โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศนั่นก็คือเรื่องราวของผีจ้างหนังนั่นเองว่ากันว่ามีคนฉายหนังได้พบเจอกับบุคคลปริศนาที่มาว่าแจ้งให้มาฉายหนังที่เกาะคำชะโนดคนฉายหนังก็ได้ไปทำการฉายหนังดั่งสถานที่ดังกล่าวระหว่างฉายหนังก็แอบสงสัยว่าทำไมผู้คนต่างดูกันอย่างเงียบสงบไม่มีเสียงใดๆเลยและหลังจากหนังฉายเสร็จแล้วคนฉายหนังก้ต้องตกใจอีกครั้งเพราะพบว่าไม่มีชาวบ้านอยู่เลยซึ่งมองไปรอบๆบริเวณดั่งกล่าวแล้วไม่มีทางที่ชาวบ้านจะเดินลับตาไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้คนฉายหนังจึงได้ทำการเก็บของแล้วรีบออกจากเกาะคำชะโนดไปอย่างรวดเร็วเรื่องนี้จึงกลายเป็นที่โด่งดังในที่สุดของความลี้ลับที่ป่าคำชะโนดแห่งนี้ภายในเกาะจะมีต้นคำชะโนดมากมายรายล้อมไปทุกบริเวณ เรื่องราวตำนานวังนาคินทร์แห่งป่าคำชะโนดป่าคำชะโนดนั้นนอกจากจะเป็นที่รู้จักจากเหตุการณ์ผีจ้างหนังแล้วแต่ถ้าหากว่าถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่อาศัยอยู่ใกล้ๆป่าแห่งนี้มาเป็นเวลาช้านานก็จะพบว่าเรื่องราวของผีจ้างหนังนั้นเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวความรู้ลี้ลับในป่าแห่งนี้เท่านั้นจริงๆแล้วยังมีอีกหลากหลายเหตุการณ์ที่ชาวบ้านได้พบเจอแต่ก็ไม่ได้ถูกนำมาเล่าและตีแผ่มากนักจะรู้กันเพียงเฉพาะชาวบ้านแถบนั้นว่าป่าแห่งนี้นั้นศักดิ์สิทธิ์จริงๆและมีเรื่องเร้นลับไม่ควรจะเข้าไปลบหลู่เป็นอย่างยิ่งถึงทุกวันนี้ก็ได้มีการออกข้อปฏิบัติก่อนที่จะเข้าไปในป่าคำชะโนดไว้อย่างชัดเจนและเคร่งครัด คําชะโนด ประวัติ เรื่องราวลี้ลับ คำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่เรื่องราวลี้ลับ คําชะโนด ประวัติ ในปัจจุบันนี้บริเวณเกาะคำชะโนดนั้นก็มีสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากเดิมนั่นก็คือมีร้านค้ามีสะพานพูดง่ายๆก็คือเจริญขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย เรื่องราวแปลกประหลาดในปากคำชะโนดว่าในช่วงเวลาหน้าฝนนั้นเมื่อใดที่เกิดน้ำท่วมเราจะสังเกตได้ว่าบริเวณพื้นที่ทุ่งนาบริเวณรอบๆป่าคำชะโนดนั้นก็จะถูกน้ำท่วมจนมิดเลยจะมีก็แต่บริเวณปากคำชะโนดเท่านั้นที่กลับไม่ถูกน้ำท่วมขังแล้วว่ากันว่าเกาะคำชะโนดนี้ก็จะลอยอยู่กลางน้ำแล้วเมื่อน้ำลดลงเจ้าเกาะอัศจรรย์คำชะโนดนี้ก็จะลดลงมาตามจนเรียบเสมอกับพื้นที่ทุ่งนาโดยรอบเหมือนกับว่าเกาะแห่งนี้ลอยน้ำได้ยังไงอย่างงั้น จึงทำให้ชาวบ้านที่นี่เรียกเกาะคำชะโนดว่าปลาที่ไม่มีวันจมน้ำอีกหนึ่งชื่อจากคำบอกเล่าของนายทองอินทร์ปักเสติชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านโนนเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป่าคำชะโนดมากนักเขาได้เล่าให้ฟังว่าเรื่องอาถรรพ์แห่งป่าคำชะโนดนั้นไม่ใช่เรื่องที่แต่งเสริมขึ้นมาแต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านละแวกนี้นับถือกันมาช้านาน สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคเดิมผีชาวบ้านจะเรียกกันว่าวังนาคินทร์คำชะโนดซึ่งชื่อดังกล่าวก็ได้มาจากการที่ปากคำชะโนดมีบ่อน้ำเล็กๆที่เป็นบ่อน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่บนเกาะคำชะโนดซึ่งมีเรื่องน่าแปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือบ่อน้ำดังกล่าวจะไม่เคยแห้งเหือดเลยไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งหรือฤดูอะไรก็ตามทำให้ชาวบ้านต่างพากันเล่าขานว่าที่บ่อน้ำแห่งนั้นเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคต่อมาจึงมีชาวบ้านจำนวนมากได้ไปบนบานศาลกล่าวและปรากฏว่าบางคนก็ได้สิ่งที่ขอสมตามปรารถนาจริงๆหรือบางคนที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะนำน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ไปอาบหรือไปดื่มกินก็ปรากฏว่าอาการป่วยต่างๆนั้นหายไปเลยทีเดียวหรือแม้กระทั่งมีคนบางคนเช่นเดียวกันที่ไม่เชื่อแต่ได้ทำการลบรูด้วยการตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไปล้างเท้าปรากฏว่าไม่นานก็ต้องล้มป่วยอย่างหนักจนต้องมาทำการขอขมากันยกใหญ่ คําชะโนด อยู่จังหวัดอะไร มีจริงไหม สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้รู้จักหรือได้ฟังเรื่องราวของป่าคำชะโนดมาบ้างแล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่า คําชะโนด อยู่จังหวัดอะไร วันนี้เรามีข้อมูลมากฝากกันให้พี่น้องชาวไทยได้รับรู้กันว่าป่าคำชะโนดอยู่ที่ไหน คำชะโนดสถานที่เป็นเกาะกลางหนองน้ำที่มีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมา สักการะบูชาพญานาค ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลวังทอง, ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงในปัจจุบันมีความเจริญมากกว่าเมื่อก่อนยิ่งนักเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคมาช้านานในปัจจุบันเป็นที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากมีผู้คนมากมายทั่วทุกสาริทิศต่างเข้ามากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่ป่าคำชะโนดนั้นมีกฏมีข้อห้ามที่ควรทำตามอย่างเคร่งครัดนั่นก็คือการห้ามใส่รองเท้าขึ้นไปบริเวณพืนป่าห้ามสวมหมวกหรือแว่นตาห้ามกางร่มห้ามเศษของมึนเมาเช่นเหล้าหรือบุหรี่ห้ามกล่าวหรือพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอันขาดที่สำคัยห้ามใส่เสื้อผ้าสีแดงเข้าไปในบริเวณป่าคำชะโนดเป็นอันขาด คําชะโนด ขอเรื่องอะไร สัมฤทธิ์ผล สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ คําชะโนด ขอเรื่องอะไร ได้หลากหลายโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ เลขเด็ด ที่มีผู้คนมากมายสมหวังถูกหวยรวยกันมานักต่อนักแล้ว ตามความเชื่อแล้วขอแนะนำว่าไม่ควรขอเรื่องความรักคู่ครองเพราะจะไม่สมหวังและในปัจจุบันเนื่องจากมีผู้คนมากมายเข้าไปที่คำชะโนดจึงทำให้ได้มีการออกกฏระบบเพิ่มเติมขึ้นมาจากเมื่อก่อนเช่นห้ามใส่รองเท้าเข้าไปในพื้นที่คำชะโนดห้ามสวมใส่หมวกแว่นตาห้ามกลางร่มห้ามขีดเขียนต้นไม้ห้ามนั่งบนขอบสระน้ำศักดิ์สิทธิ์และห้ามนั่งบนราวสะพานห้ามส่งเสียงดังและมีกริยาที่สุภาพห้ามนำสุราและสิ่ีงเสพติดใดๆเข้าในพื้นที่คำชะโนดห้ามพูดจาหยาบคายยุยงหรือดูมิ่นสาปแช่งหรือพูดหมิ่นประมาทห้ามทิ้งสิ่งของใดๆลงในบ่อศักดิ์สิทธิ์และให้ช่วยกันรักษาความสะอาดห้ามสิ่งขยะหรือสิ่งของใดๆลงในเมืองคำชะโนดห้ามใช้อันหรือแก้วใดๆตักน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียกว่าพญานาค ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีแต่ปากคำชะโนดที่เดียวทางจังหวัดหนองคายเองก็เชื่อว่ามีพญานาคและมีเมืองบาดาลอยู่จริงซึ่งในทุกๆปีขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ก็จะมีเรื่องราวของบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นโดยชาวบ้านต่างเชื่อว่าในวันดังกล่าวนั้นจะมีพญานาคขึ้นมาหายใจลักษณะก็จะเป็นดวงไฟสีแดงพุ่งพยานขึ้นสู่ท้องฟ้าหากใครได้พบเจอก็ถือว่าจะเป็นมงคลแห่งชีวิตเลยทีเดียวแล้วก็กลายเป็นประเพณีที่โด่งดังไปทั่วประเทศของจังหวัดหนองคายนั่นก็คือการมาชมบั้งไฟพญานาคนั่นเองสำหรับพญานาคแห่งป่าคำชะโนดเองก็มีเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมายาวนานเหมือนกันโดยเชื่อว่าพญานาคใช้ปากคำชะโนดเป็นเส้นทางในการเดินทางระหว่างเมืองบาดาลและโลกมนุษย์โดยจุดเริ่มต้นนั้นเชื่ิอกันว่าการเกิดปากคำชะโนดมาจากพญานาคราช2 ตนก็คือพญาศรีสุทโธและสุวรรณาในครั้งนั้นพญานาคทั้งสองได้ครองเมืองหนองประแสร่วมกันคนละครึ่งโดยต่างฝ่ายต่างก็มีบริวารฝ่ายละ 5,000 บาทต้นเท่ากันและจะอยู่ร่วมกันแต่ทั้งสองก็ไม่เคยที่จะขัดแย้งอีกทั้งยังรักและสามัคคีกันเป็นอย่างดีอีกด้วยถ้ามีอาหารก็จะแบ่งกันกินอย่างไม่เคยรังเกียจฝั่งตรงข้ามทั้งสองฝ่ายนั้นก็มีข้อตกลงร่วมกันข้อ1ว่าหากวันใดวันหนึ่งฝ่ายใดออกไปหาอาหารอีกฝ่ายห้ามออกไปเป็นอันขาดเพราะกลัวว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งการจนทำให้เกิดความขัดแย้งได้นอกจากนั้นเมื่อฝ่ายที่ออกหาอาหารได้อาหารมาแล้วก็ต้องแบ่งให้อีกฝ่ายหนึ่งครึ่งนึงเท่าๆกัน คําชะโนด เปิดกี่โมง